คอลลาเจนสำหรับกระดูกกับผิวหนัง ต่างกันอย่างไร

Posted by:

|

On:

|

แม้ว่าคอลลาเจนจะเป็นโปรตีนที่พบได้ทั้งในกระดูกและผิวหนัง แต่มีความแตกต่างกัน 4 เรื่อง ดังนี้

1. ชนิดของคอลลาเจน:

กระดูก: คอลลาเจนในกระดูกส่วนใหญ่เป็นชนิดที่ 1 (Type I) ซึ่งมีความแข็งแรงและทนทานมาก มีโครงสร้างเป็นเส้นใยหนาแน่น

ผิวหนัง: คอลลาเจนในผิวหนังมีชนิดที่ 1 (Type I) เช่นกัน แต่ก็มีชนิดที่ 3 (Type III) ร่วมด้วย โดย Type III จะมีโครงสร้างเป็นเส้นใยที่ละเอียดกว่า Type I ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความเรียบเนียนให้กับผิว

2. โครงสร้าง:

กระดูก: เส้นใยคอลลาเจนในกระดูกจะเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบและหนาแน่น คล้ายกับ “โครงเหล็ก” ของอาคารเพื่อรองรับน้ำหนักและแรงกระแทก

ผิวหนัง: เส้นใยคอลลาเจนในผิวหนังจะเรียงตัวกันแบบ “ตาข่าย” ที่มีความยืดหยุ่น และซับซ้อนเพื่อให้ผิวหนังสามารถยืด หด และเคลื่อนไหวได้

3. หน้าที่:

กระดูก: คอลลาเจนในกระดูกทำหน้าที่เป็นโครงร่างที่แข็งแรงสำหรับแคลเซียม และแร่ธาตุอื่นๆ มาเกาะ ทำให้กระดูกแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก และ รองรับน้ำหนักของร่างกาย

ผิวหนัง: คอลลาเจนในผิวหนังช่วยคงความยืดหยุ่น ความเต่งตึง และความชุ่มชื้น ของผิว ป้องกันริ้วรอยและความหย่อนคล้อย

4. การเสื่อมสลาย:

กระดูก: การเสื่อมสลายของคอลลาเจนในกระดูกเป็นไปตามวัฏจักรของกระดูก และหากร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ทดแทนไม่เพียงพอ จะเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคกระดูกพรุน

ผิวหนัง: การเสื่อมสลายของคอลลาเจนในผิวหนังเป็นสาเหตุหนึ่งของริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และความแห้งกร้านของผิว

วัฏจักรของกระดูก (Bone remodeling) หมายถึง กระดูกมีการสร้างใหม่และสลายอยู่ตลอดเวลาในกระบวนการที่เรียกว่า Bone Remodeling ซึ่งประกอบด้วย 2 ขั้นตอนหลักๆ คือ

1. การสลายกระดูก (Bone Resorption): เซลล์ Osteoclast (เซลล์ทำลายกระดูก) จะสลายเนื้อเยื่อกระดูกเก่า และปล่อยแคลเซียมเข้าสู่กระแสเลือด

2. การสร้างกระดูก (Bone formation): เซลล์ Osteoblast (เซลล์สร้างกระดูก) จะสร้างเนื้อเยื่อกระดูกใหม่ขึ้นมาทดแทน

เมื่อมีการสลายกระดูกเกิดขึ้น คอลลาเจนในกระดูกจะเสื่อมสลายตามไปด้วย ซึ่งเป็นกระบวนการปกติที่ต้องเกิดขึ้น กระดูกเดิมจะขาดความแข็งแรง จำเป็นต้องถูกสลายทิ้ง เพื่อสร้างกระดูกใหม่ที่แข็งแรงกว่าเดิมขึ้นมาทดแทน เป็นกระบวนการที่จะเป็นต่อสุขภาพกระดูก แต่หากร่างกายสร้างคอลลาเจนสำหรับกระดูกได้น้อย จะส่งผลต่อกระบวนการสร้างกระดูกใหม่ทันที หากไม่ได้รับการแก้ไข จะเกิดภาวะกระดูกพรุนในที่สุด

การสร้างกระดูกใหม่เป็นกระบวนการที่รอไม่ได้ และต้องอาศัยหลายปัจจัยเพื่อให้กระบวนการนี้เกิดขึ้นสมบูรณ์ หลายคนได้รับสารอาหารครบ พักผ่อนเพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ก็ยังเกิดภาวะกระดูกพรุน และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพหลายอย่าง

ฟื้นบำรุงกระดูกให้ตรงจุด แนะนำแคลเซียมเสริม “Dr.BOPLUS” ซึ่งแต่ละเม็ดของ Dr.BOPLUS มีส่วนประกอบของ PROTETITE® มากถึง 96%

PROTETITE® นวัตกรรมดูแลสุขภาพกระดูกจากญี่ปุ่น ช่วยให้กระบวนการสร้างกระดูกทำงานได้เต็มที่มากขึ้น

📌PROTETITE® นวัตกรรมสารอาหารตัวใหม่ของโลก ที่แตกต่างจากอาหารเสริมชนิดอื่นคือ การผูกติด (Composite) โปรตีนคอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen type1) กับแคลเซียมไฮดรอกซี่อะพาไทต์(Calcium Hydroxyapatite) ในมวลโมเลกุลระดับนาโน เป็นสารชีวภาพ (Biomaterials) มีโครงสร้างและองค์ประกอบคล้ายกับกระดูกของมนุษย์

📌ผลการวิจัยจากประเทศญี่ปุ่น* ที่วิจัยทั้งกับหนูทดลอง และผู้หญิงวัยทองจำนวน 30 ท่าน โดย Professor Isamu Kashima จาก Kanakawa Dental university รับรองว่าเพิ่มCortical bone (กระดูกเนื้อแน่น) และ Spongy bone (กระดูกเนื้อโปร่ง)

📌เป็นสารอาหารที่เข้ากับกระดูกและสลายได้ตามกลไกธรรมชาติของกระดูกคนเรา (Bio-compatibility / Bio-degradable)

📌เม็ดเล็ก กลืนง่าย ท้องไม่อืด

📌ผลิตในประเทศญี่ปุ่น และการันตีด้วยสิทธิบัตรทั้งในด้านกระบวนการผลิตและสารอาหารตัวใหม่ในโลก จาก 5 ประเทศ ญี่ปุ่น อเมริกา จีน เกาหลี และไต้หวัน

📌รพ.เอกชนชั้นนำในไทยหลายแห่งเลือกใช้

สอบถามเพิ่มเติม ทักไลน์ #DrBOPLUS#ดรโบพลัส แท้ชัวร์ ล๊อตใหม่ Exp. 27/9/2025 เลขที่ อย 10-3-08829-1-0060 ฟรีค่าจัดส่งค่ะ